ฟันปลอมแบบถอดได้เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งจากการเกิดอุบัติเหตุและตามธรรมชาติ เนื่องจากช่วยให้สามารถรับประทานอาหาร พูดคุย และยิ้มได้อย่างมั่นใจ ด้วยเหตุนี้ การดูแลฟันปลอมแบบถอดได้อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืดอายุการใช้งาน และรักษาสุขภาพช่องปากโดยรวม ดังนั้น มาดูกันว่าเราควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ฟันปลอมอยู่ในสภาพดีที่สุด
ทำไมต้องดูแลฟันปลอม ?
- ยืดอายุการใช้งาน
ฟันปลอมที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ใช้งานได้หลายปี รวมถึงการหลีกเลี่ยงความเสียหาย เช่น การเกิดรอยหรือแตกหัก ทำให้ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนฟันปลอมใหม่ - รักษาสุขอนามัยในช่องปาก
ฟันปลอมที่ไม่ได้ทำความสะอาดอย่างถูกวิธีอาจสะสมคราบแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งสามารถนำไปสู่กลิ่นปาก การอักเสบของเหงือก หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ - ป้องกันปัญหาเหงือก
การทำความสะอาดฟันปลอมอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือการอักเสบที่เกิดจากการสวมฟันปลอม - รักษารูปลักษณ์ฟันปลอม
ฟันปลอมที่สะอาดและอยู่ในสภาพดี ย่อมช่วยรักษาความสวยงามและความมั่นใจของผู้ใช้งาน
วิธีการทำความสะอาดฟันปลอมอย่างถูกวิธี
การดูแลฟันปลอมแบบถอดได้ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อรักษาความสะอาด แต่ยังช่วยป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย โดยต่อไปนี้คือวิธีดูแลฟันปลอมแนะนำที่สามารถนำไปปรับใช้กันได้
- ใช้แปรงสำหรับฟันปลอมหรือแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม
แปรงขนนุ่มช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวของฟันปลอม ขณะทำความสะอาด ควรจับฟันปลอมให้มั่นคงเพื่อป้องกันการหลุดมือจนแตกหัก - เลือกน้ำยาที่ออกแบบมาเพื่อฟันปลอมโดยเฉพาะ
น้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ สามารถขจัดคราบและเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีน้ำยาสำหรับฟันปลอม สามารถใช้สบู่อ่อน ๆ และน้ำอุ่นทดแทนได้ - ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนใส่
หลังทำความสะอาดฟันปลอมแล้ว ควรล้างฟันปลอมอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าจนสะอาดหมดจด เพื่อป้องกันการระคายเคืองเหงือกจากสารทำความสะอาดที่ตกค้าง

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงขณะใส่ฟันปลอม
เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันปลอมเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้
- การกัดหรือเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียวมากเกินไป
ฟันปลอมไม่ได้แข็งแรงเหมือนฟันธรรมชาติ ดังนั้น ถ้าคุณกัดอาหารที่แข็งเกินไป เช่น น้ำแข็ง กระดูก หรือเมล็ดถั่ว ก็อาจทำให้ฟันปลอมเกิดรอยร้าวหรือแตกหักได้ นอกจากนี้ อาหารเหนียว เช่น หมากฝรั่งหรือคาราเมล ย่อมมีโอกาสที่คราบจะติดอยู่ในบนฟันปลอม และส่งผลให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้น จนอาจเกิดคราบสะสมของแบคทีเรียได้ - การใส่ฟันปลอมขณะนอนหลับ
การใส่ฟันปลอมตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการกดทับเหงือกและทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อในช่องปาก นอกจากนี้ การไม่ถอดฟันปลอมก่อนนอนอาจทำให้แบคทีเรียและคราบอาหารสะสมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากและการติดเชื้อ - การแช่ฟันปลอมในน้ำร้อน
วัสดุที่ใช้ทำฟันปลอม เช่น อะคริลิกหรือเรซิน จะเสียรูปทรงเมื่อสัมผัสกับความร้อนสูง ดังนั้น การแช่ฟันปลอมในน้ำร้อนหรือการใช้น้ำเดือดทำความสะอาด จะทำให้ฟันปลอมเสียรูปและไม่พอดีกับช่องปากของคุณ - การใส่ฟันปลอมที่ชำรุดหรือไม่พอดีกับช่องปาก
หากฟันปลอมเกิดความเสียหาย เช่น แตกหัก หรือไม่กระชับเหมือนเดิม ควรนำไปปรับแต่งหรือซ่อมแซมโดยทันตแพทย์ทันที เนื่องจากการใส่ฟันปลอมที่ชำรุดอาจทำให้เกิดการกดทับเหงือก หรือทำให้เกิดการระคายเคืองจนส่ง - ผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก
หลีกเลี่ยงการวางฟันปลอมในที่แห้งหรือแดดจัด การวางฟันปลอมไว้ในที่แห้งอาจทำให้วัสดุของฟันปลอมแห้งและเปราะเสียหาย ดังนั้น วิธีดูแลฟันปลอมที่ถูกต้องจึงควรแช่ฟันปลอมในน้ำสะอาดหรือน้ำยาสำหรับฟันปลอม เพื่อป้องกันการแห้งกรอบ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเก็บฟันปลอมในที่ที่มีแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง เพราะอาจทำให้ฟันปลอมเสียรูปหรือเสื่อมสภาพ
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลฟันปลอมแบบถอดได้
- ใช้กล่องเก็บฟันปลอมที่เหมาะสม
การเก็บฟันปลอมในกล่องเฉพาะสำหรับฟันปลอม จะช่วยป้องกันการตกหล่นที่อาจทำให้ฟันปลอมแตกหัก นอกจากนี้ การใช้กล่องเก็บยังช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกในสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย - ตรวจเช็กฟันปลอมเป็นประจำ
ควรเข้าพบทันตแพทย์เป็นระยะเพื่อตรวจเช็กสภาพของฟันปลอมและสุขภาพช่องปาก เพราะการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ฟันปลอมยังคงใช้งานได้ดี และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทำฟันปลอมที่ไหนดี ?
การดูแลฟันปลอมแบบถอดได้อย่างถูกวิธี ช่วยให้สามารถใช้งานฟันปลอมได้อย่างมั่นใจในทุกวัน รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาสุขภาพช่องปากได้อีกด้วย สำหรับคนที่สนใจการทำฟันปลอม สามารถมาปรึกษาได้ที่ คลินิกทันตกรรม Smile Focus เรามีบริการปรึกษาเรื่องการทำฟันปลอม โดยทีมทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ที่จะทำการประเมินสภาพฟันของคุณอย่างละเอียด และใช้วิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สนใจสามารถนัดเข้ามาปรึกษาปัญหากับทันตแพทย์ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 093-949-9269 LINE : @Smile Focus หรือมาที่คลินิก Smile Focus ทั้ง 3 สาขา ถนนจันทน์ บางบอน และพระราม 2